วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

MINI 50 Mayfair

The worldwide MINI Community is celebrating the 50th birthday of the brand on the occasion of the MINI United Festival.

Photo courtesy of BMW North America, Inc. / Text by Weerawouth Hransombat
ถ้าเปรียบอายุขัยวัย 50 ก็คงเทียบเท่าซูเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับไปอย่างไมเคิล แจ็คสัน นั่นยาวนานพอๆ กับแบรนด์รถยนต์ชื่อเล็กๆ แต่ราคาแสนแพงอย่าง MINI ซึ่งถึงแม้คอนเซ็ปต์ในการเกิดขึ้นครั้งแรกๆ เมื่อ 50 ปีก่อนจะเพื่อสนองตอบความต้องการผลิตรถเล็ก กะทัดรัด ราคาสบายกระเป๋า และประหยัดน้ำมัน แต่ทว่าในตอนนี้ MINI กลับกลายเป็นรถหรูราคาแสนแพงไปในที่สุด จากความนิยมที่ไม่เคยหยุดหย่อนจากทั่วทุกมุมโลก จนทำให้อายุอานาม 50 ปีของ MINI เป็นที่น่าจับตา และนั่นก็ไม่ทำให้คนรัก MINI ต้องผิดหวังกับการเปิดตัว 2 โมเดลพิเศษ MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden โดยคันที่เรานำมาอวดโฉมกันอยู่นี่คือ 50 Mayfair ในเรือนร่างสีน้ำตาลหรู โดยทั้งสองโมเดลได้ทำการบุกตลาดไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน ปีค.ศ. 2009

โมเดลพิเศษนี้มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นท็อปสุดใช้บอดี้ Cooper S เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จแบบ Twin-scroll เหยียบได้เต็มกำลังที่ 175 แรงม้า อีกรุ่นเป็นบอดี้ Cooper เครื่องยนต์ 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 120 แรงม้า และท้ายสุดเป็นรุ่นที่ใช้บอดี้ Cooper D ในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า พร้อมกับมีการพัฒนาระบบส่งกำลังช่วงล่างที่ดีขึ้น สามารถเลือกใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Paddle บนพวงมาลัย หรือจะเลือกใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีดก็ไม่มีปัญหา

ความพิเศษของโมเดล 50 Mayfair นี้เน้นไปที่การสร้างจุดสนใจเฉพาะจุดเพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ในการฉลอง 50 ปี โฉมภายนอกที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก สะดุดตาด้วยกระจังหน้าโครเมียมวาววับ พร้อมสปอตไลต์ด้านหน้า ช่องดักลมตกแต่งขอบด้วยโครเมียม ล้อแม็กน้ำหนักเบา สีขาวขอบ 17 นิ้ว ลาย 12 ก้าน โดดเด่นด้วยหลังคาสีขาวตัดกับสีน้ำตาลของตัวรถ พร้อมกับมีให้เลือกทั้งแบบ Union Jack สีแดง ขาว และฟ้า ภายในตกแต่ง 2 สี แบบ Carbon Black ผสมผสานกับแผงหน้าปัดภายในสีน้ำตาล Brownish Black เรียบง่ายแต่หรูหรา พร้อมพวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาลครึ่งวงล่างเหมือนหัวเกียร์

สำหรับเรื่องระบบเสียงนั้นหายห่วง ด้วยเครื่องเสียงระดับ HiFi จาก Harman Kardon ที่การันตีได้ว่าเป็นระบบเครื่องเสียงรถยนต์ที่สุดยอดของ MINI ซึ่งผู้ขับขี่จะสามารถเปิดประสบการณ์บนยานยนต์คันเล็กได้แบบมโหฬาร พร้อมสนองตอบกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีด้วยการเตรียม USB พอร์ตไว้เชื่อมต่อไฟล์เพลงอื่นๆ และอุปกรณ์สำหรับรองรับ iPod โดยเจ้าของรถสามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มอุปกรณ์สำหรับควบคุมระบบเสียงรถยนต์ หรือจะเพิ่มในส่วนของระบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่าง iPhone ก็ได้ นอกจากได้โอบล้อมไปกับความเป็น MINI อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว การดีไซน์ส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ นั่นประหนึ่งได้ออกแบบตามใจผู้ขับขี่เลยทีเดียว   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น