วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

‘Hong Kong’ on the Move

World SME Expo & Inno Design Tech Expo
Images / Text by Weerawouth Hransombat

เมื่อวันที่ 2 – 4 ธันวาคมปลายปีที่แล้ว ผมได้รับเชิญจาก ‘สมาคมพัฒนาการค้าฮ่องกง’ (The Hong Kong Trade Development Council – HKTDC) เพื่อเข้าร่วมชมงาน ‘World SME Expo & Inno Design Tech Expo’ ที่ฮ่องกง โดยทั้งสองงานถูกจัดขึ้นที่ ‘Hong Kong Convention and Exhibition Center’ ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นทุกๆ ปี และในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองที่ SME จากประเทศไทยได้บินไปร่วมงาน และก็ถือเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้รีวิวถึงความปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหวของ Hong Kong ผ่าน Expo ทั้งสองงานนี้
เราใช้เวลาในการบินราวๆ 2 ชั่วโมงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ออกแบบโดย Helmut Jahn สู่จุดหมายปลายทางที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง ที่ออกแบบโดย Norman Foster ซึ่งแค่เพียงแตะพื้นแผ่นดินฮ่องกงเราก็ได้พบกับผลงานของ starchitect เสียแล้ว นั่นยิ่งทำให้เราวาดภาพว่าจะได้เจออะไรบ้างในงาน Expo ครั้งนี้ โดยวัตถุประสงค์หลักๆ ของการจัดงานก็เพื่อการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธรุกิจขนาดย่อมอย่าง SME ทั้งเรื่องของการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ไปจนถึงช่องทางต่างๆ ที่จะพัฒนาแบรนด์ และเพรียบพร้อมไปกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย
โดยงานนี้แม้จะมีทั้งภาคธุรกิจขนาดย่อมและภาคของเทคโนโลยีผสานงานดีไซน์ แต่ทั้งสองงานก็เชื่อมโยงถึงกันได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำสินค้าหรือบริการมาโชว์ การจัดนิทรรศการด้านเทคโนโลยี และการออกแบบทั้งในเชิงพาณิชย์และศิลป์ล้วนๆ รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านตัวบทกฎหมายแก่ผู้ประกอบการ ผ่านการสัมมนาทั้งใหญ่และย่อยหลายหัวข้อกันไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างโอกาสในการประกอบธุรกิจได้เป็นอย่างดี และมีผู้เข้าร่วมออกบูธในทั้งสองงานเกือบๆ 700 บูธจากทั่วโลก
เราเริ่มเดินกันที่งาน World SME Expo ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ 1. Solution Hall เป็นโซนสำหรับหน่วยงาน หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจขนาดย่อม และ 2. Opportunity Hall เป็นโซนเกี่ยวกับการปรึกษาหารือทางด้านธุรกิจ การจับคู่กันทางธุรกิจ ซึ่งในโซนนี้ก็จะมีบูธผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมจากประเทศต่างๆ มาร่วมแสดงไอเดีย เรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์สำหรับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
สำหรับงาน Inno Design Tech Expo ซึ่งเราค่อนข้างจะสนใจเป็นพิเศษนั้น เนื่องจากมีการขนเอางานดีไซน์จากทั่วโลกมาอวดโฉมกันอย่างคับคั่ง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนเช่นกัน คือ 1. Trade Hall ที่จะเต็มไปด้วยงานดีไซน์และการทำแบรนด์ หรืองานนวัตกรรมจากนานาชาติ การพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการประยุกต์นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี และงานทางด้านการค้นคว้าและวิจัยต่างๆ ส่วนอีกโซนคือ โซนที่ 2. Inspiration Hall ก็จะมี showcase ต่างๆ ที่จะแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการดีไซน์เพื่อตอบสนองกับรูปแบบชีวิตในปัจจุบัน
โดยเฉพาะที่ ‘Kansei Design Showcase’ ที่ขนเอานวัตกรรมต่างๆ มาให้เราชมกัน โดยในโซนนี้ก็จะมีจุดเด่นๆ อยู่ที่ 1. Honda Robot ‘ASIMO’ เป็นหุ่นยนต์ที่เลียนแบบมนุษย์ โดยการใช้เทคโนโลยี i-WALK มาช่วยให้อาซิโมสามารถเดินได้ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด 2. Nine Hours Capsule Hotel by Cubic Inc. และ Japan Industrial Designers’ Association ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างงานสถาปัตยกรรมและงานโปรดักต์ดีไซน์ จนได้ห้องพักที่ดูล้ำสมัยดังกล่าว แถมในการมาครั้งนี้เราก็ยังได้เจอหนึ่งในผู้ออกแบบอย่าง ‘Fumie Shibata’ ซึ่งงานนี้เธอก็ได้มาโพสต์ท่าถ่ายรูปกับงานดีไซน์ของเธอให้เราชมพร้อมกับการพูดคุยถึงงานดีไซน์ต่างๆ 3. ‘Key’ Between People piano by Yamaha เปียโนตัวบางที่บางครั้งก็จะมี staff ในบูธตัวบางๆ เหมือนกันมาบรรเลงเพลงให้เราฟัง
หนึ่งในบูธที่เราแวะเวียนเข้าไปบ่อยๆ เห็นจะเป็น Japan Pavilion ซึ่งเป็นบูธที่ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น โดยการตกแต่งบูธจากการปิดผนังด้วยกระดาษบางๆ เหมือนกับฝาผนังกั้นห้องในบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม นั่นทำให้พรมแดนระหว่างภายนอกและภายในไม่ได้ถูกตัดขาดออกไปจากกันโดยสิ้นเชิง และภายในบูธของญี่ปุ่นก็จะมีทั้งงานออกแบบต่างๆ สินค้า ผลิตภัณฑ์ โรงเรียนทางด้านการออกแบบ รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจด้านต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานออกแบบที่ตบเท้าเข้ามาร่วมงานกันไม่น้อย อย่างเช่น ‘Nomura Design’ ซึ่งเมื่อเราไปหยุดที่หน้าบูธก็จะได้ยินคำทักทายว่า “สวัสดีค่ะ” อย่างคล่องแคล่วจาก staff สาวชาวญี่ปุ่นทันทีที่รู้ว่าเราเป็นแมกกาซีนที่มาจากเมืองไทย โดยเราก็ได้ข้อมูลมาพอสมควรจาก Japan Pavilion
เอาล่ะ เราไปแวะดูบูธของที่อื่นมาเยอะแล้ว ขอตัดเข้ามาที่บูธของไทยเพื่อดูว่าเราเอาอะไรไปโชว์เขากันดีกว่า โดยงานนี้บูธใหญ่จะเป็นของ ‘สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ’ หรือ สนช. (National Innovation Agency - NIA) ซึ่งได้นำผู้ประกอบการไทยที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ และรางวัลการออกแบบเชิงนวัตกรรมเข้าร่วมแสดงในงาน โดยจะเป็นสินค้าและบริการในเชิงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปผลิตผลการเกษตร และเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งในงานนี้ก็จะมีบริษัทที่เข้าร่วมด้วยช่วยกัน อย่างเช่น หจก. จี-ครีเอท (ประเทศไทย), บริษัท แฮลเซี่ยน เมทอล จำกัด และ Vibrato co., Ltd. เป็นต้น 
นอกเหนือจากการเดินชมในบูธต่างๆ ของทั้งสองงานแล้ว สิ่งที่ถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนทัศน์ของทั้งสองงานนั่นก็คือ การการสัมมนาย่อย ซึ่งแบ่งเป็นหลายกลุ่ม หลายหมวดหมู่ หลายหัวข้อ โดยเราเองมุ่งประเด็นไปที่งานดีไซน์เป็นหลักเพื่อสำรวจตรวจสอบดูทิศทางของการไหลบ่าทางความคิดของดีไซเนอร์จากนานาประเทศ อย่างในหัวข้อ ‘Asian Interior Design Symposium: Interior Design Identity, Relevance, Value & Responsibility’ ซึ่งก็จะมีดีไซเนอร์หลายคนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่าถึงประสบการณ์การทำงาน การออกแบบ รวมไปถึงการเพิ่มมูลค่าให้กับงานดีไซน์ในกระแสรักษ์โลกอย่างทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากการสัมมนาในเรื่องดีไซน์แล้วทางฝั่ง SME ก็มีกลยุทธ์ต่างๆ แห่งการสร้างแบรนด์มาพูดคุยกันในการสัมนา ‘Outstanding Businesses Panel Discussion’ ซึ่งก็จะมีผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกงมาเล่าถึงการสร้างแบรนด์ของพวกเขา
งานนี้ต้องขอกล่าวชมผู้จัดอย่าง สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC รวมทั้งภาครัฐของฮ่องกงที่มีมุมมองในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบสร้างสรรค์ ซึ่งพวกเขาไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ หากแต่เป็นการวางแผนมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยแผนทางด้านนโยบายเศรษฐกิจ ที่พัฒนาพัฒนาจากการเป็นเพียงตัวกลางให้กลายเป็นศูนย์กลาง หรือ major hub และเพื่อเชื่อมโยงจีนกับตลาดโลก ซึ่งฮ่องกงก็ถือเป็นศูนย์กลางการเงินและการธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากนิวยอร์กและลอนดอน และหนึ่งในเครื่องมือที่ผลักดันการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ของฮ่องกงนั่นก็คือ HKTDC
HKTDC ก่อตั้งขึ้นกว่า 40 ปีแล้ว โดยกิจกรรมก็จะมีทั้งการขับเคลื่อนธุรกิจภายในออกสู่ภายนอก รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการจากภายนอกสู่ภายใน การจัดงานนิทรรศการต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในทุกๆ ปี โดยในขณะนี้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกของบ้านเราก็ได้ร่วมไม้ร่วมมือเพื่อพัฒนาธุรกิจต่างๆ ร่วมกันแล้ว ถือได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองสำหรับฮ่องกง ซึ่งในครั้งหน้าถ้าเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมอีกก็คงจะได้เห็นการขับเคลื่อนที่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับตอนนี้คาดว่าในบ้านเราก็คงจะยังอยู่ในบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่กันอยู่ อย่ามัวแต่ฉลองกันเพลินล่ะ เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง และเราก็จะต้องก้าวไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดยั้ง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น